ตึกโดม
เป็นอาคารหลังแรกของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ออกแบบโดยนายหมิว อภัยวงศ์ ตามคำแนะนำของบุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัย ปรับปรุงจากตึกเก่า 4 หลังของทหารโดยสร้างหลังคาเชื่อมแต่ละตึก จนกลาย เป็น อาคารหลังเดียวกัน ส่วนกลางของตึกได้สร้างอาคาร 3 ชั้นขึ้นเพิ่มเติมโดยมี “โดม” เป็นสัญลักษณ์ตรงกลาง รูปแบบ ของโดมนี้ กล่าวอธิบายกันในภายหลังว่านำรูปแบบมาจากดินสอแปดเหลี่ยมที่เหลาจนแหลมคม เพื่อแสดงถึงภูมิปัญญา ที่สูงส่ง ของการจัดการศึกษา
ภายในอาคารตึกโดม เมื่อเดินจากบันไดกลางขึ้นไปบนชั้น 2 ห้องแรกจะเป็น ห้องทำงาน ของบุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัย ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งห้องเดียวกันนี้ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่สอง คือ ศูนย์บัญชาการ ขบวนการเสรีไทยที่มีนายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้นำ โดย ทำงาน ร่วมกับเสรีไทยสายอังกฤษ และสาย สหรัฐอเมริกา
มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง รวมทั้งตึกโดมของมหาวิทยาลัย แห่งนี้ จึงมีสถานะพิเศษอย่างยิ่ง สำหรับผู้ร่วมขบวนการเสรีไทยและผู้รักชาติทั้งมวล แต่ในอีกทางหนึ่งก็ได้ส่งผลให้ฝ่ายกองทัพและผู้มีอำนาจ ทางการเมือง ฝ่ายตรงข้าม นายปรีดี มีความระแวง และ หวาดกลัวมหาวิทยาลัยแห่ง
หลังเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน เดือนมิถุนายน พ.ศ.2494 กองทัพบกได้เข้ายึดพื้นที่ของมหาวิทยาลัยวิชา ธรรมศาสตร์และการเมืองไว้ รวมทั้งเสนอขอซื้อที่ผืนนี้ด้วยเงินจำนวน 5 ล้านบาท แต่นักศึกษาของ มธก. จำนวนกว่า 2 พันคน ได้รวมตัวกันเดินขบวนไปยังรัฐสภา เพื่อเรียกร้องขอมหาวิทยาลัยคืนจากรัฐบาลทหารในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2494 และประสบความสำเร็จโดยได้มหาวิทยาลัยคืนกลับมาอย่างสันติวิธีโดยมีนักศึกษาจำนวนกว่าพันคน ได้บุกเข้ามายึดพื้นที่ มหาวิทยาลัยคืนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2494
อย่างไรก็ตาม ในปีถัดต่อมา คือ พ.ศ.2495 ชื่อของมหาวิทยาลัยก็ได้ถูกตัดคำว่า “การเมือง” ออกไป และเหลือ แต่เพียงชื่อ “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ตราบจนปัจจุบัน
กล่าวได้ว่ารรณศรี ได้ประพันธ์บทกวี “โดม…ผู้พิทักษ์ธรรม” ไว้ในปี พ.ศ.2495มีความตอนหนึ่งกล่าวว่า “ถ้าขาดโดม...เจ้าพระยา...ท่าพระจันทร์ ก็ขาดสัญลักษณ์พิทักษ์ธรรม