Loading...

หน้าร้อนกับโรคผิวหนัง รู้ทัน กันก่อนเกิด

ฤดูร้อน ช่วงเวลาที่หลาย ๆ คน ได้เที่ยว และพักผ่อนไปกับการเล่นน้ำคลายร้อน แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องเฝ้าระวัง คือ โรคทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นลมแดด หน้ามืด รวมถึงโรคทางผิวหนังที่มักจะเกิดขึ้นได้กับคุณ

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2562

 

          ฤดูร้อน ช่วงเวลาที่หลาย ๆ คน ได้เที่ยว และพักผ่อนไปกับการเล่นน้ำคลายร้อน แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องเฝ้าระวัง คือ โรคทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นลมแดด หน้ามืด รวมถึงโรคทางผิวหนังที่มักจะเกิดขึ้นได้กับคุณ ทั้งในเวลาปกติและพบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อน และในวันนี้ พญ.ปรารถนา สิทธิวัฒนาวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้ในช่วงหน้าร้อนเพื่อให้คุณได้รู้เท่าทัน และป้องกันได้ก่อนเกิด

         พญ.ปรารถนา เล่าให้ฟังถึงโรคที่สามารถพบได้บ่อยใกล้ตัวคุณ และพบได้บ่อยในหน้าร้อน คือ อาการรูขุมขนอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา ลักษณะอาการ คือ มีตุ่มแดงคล้าย ๆ เป็นสิวที่หน้าอก และโรคเกลื้อน ซึ่งเป็นการติดเชื้อราที่ผิวหนังชนิดหนึ่ง โดยอาการที่แสดงขึ้น จะเห็นเป็นผื่นเล็ก ๆ บริเวณปกหลัง รักแร้ ในบางท่านจะเห็นว่าเกลื้อนเป็นตุ่มสีแดง สีขาว หรือสีคล้ำขึ้น ทั้งสองโรคนี้ เกิดจากความชื้นที่มาจากเหงื่อ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา

          โดยอีกภาวะหนึ่งที่จะเกิดขึ้นได้บนผิวหนัง คือ ภาวะกดดันของต่อมเหงื่อ ซึ่งเกิดจากการที่เราอยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนมาก ๆ ประกอบกับเหงื่อไม่สามารถระบายได้ทัน สำหรับอาการที่เกิดขึ้นจากภาวะนี้ เราจะเห็นคล้าย ๆ ผดเล็ก ๆ ขึ้นตามตัว และภาวะนี้สามารถพบอย่างเห็นได้ชัดในเด็ก จากการที่ร่างกายของเด็กไม่สามารถระบายอากาศได้ทัน

          นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อเผชิญกับสภาพอากาศร้อน คือ โรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ผิวเราสัมผัสแสงจากดวงอาทิตย์ ซึ่งมีทั้งรังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า รังสี UV และแสง Visible Light แต่สิ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ คือ รังสี UV ซึ่งปริมาณรังสีที่กระทบกับผิวหนัง สามารถส่งผลต่อระบบผิวหนัง จนอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งที่ผิวหนังได้ และประเทศไทยเราเอง ก็เป็นพื้นที่ที่มีปริมาณรังสี UV ตกกระทบพื้นดินมากอยู่แล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่าเดิม

          คุณหมอได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ค่า UV หรือ UV Index จะแปรผันไปตามค่าที่มีการรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือรายงานบนเว็บไซต์ตรวจสอบสภาพอากาศ ซึ่งจะมีการระบุค่า UV ที่ตกกระทบในพื้นที่นั้น ๆ ไว้ด้วย