Loading...

‘เด็กธรรมศาสตร์’ สร้างชื่อระดับเอเชียแปซิฟิก แข่งขันประมวลผลบนคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง คว้าเหรียญทองแดง ร่วมกับ ‘สิงคโปร์-ไต้หวัน’

 

ทีมนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ปักธงบนเวที APAC HPC-AI 2021 คว้าอันดับ 3 ร่วมกับสิงคโปร์-ไต้หวัน

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

     AI หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ทำให้แอปโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) สามารถเลือกเนื้อหามาวางบนสร้างหน้าเพจ ยิงโฆษณา และแนะนำฟีดที่ตรงใจผู้ใช้แต่ละคนได้ การปฏิวัติคอนเทนต์ในยุคแห่งเอไอเกิดจากการดึงขุมพลังการคำนวณขั้นสูงของระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์หรือเฮชพีซี (HPC: High Performance Computing) จากเดิมที่เคยใช้เพื่อการค้นคว้าทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ขั้นสูง มาใช้ในการคำนวณเอไอด้วย ทักษะความรู้ความสามารถในการดึงพลังการคำนวณบนระบบเฮชพีซีจึงเป็นกำลังสำคัญที่สามารถช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ ผลักดันธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศ

     จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เมื่อทีมนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ในฐานะตัวแทนเยาวชนไทยที่สามารถปักธงบน เวที APAC HPC-AI 2021 การแข่งขันประชันสมรรถนะของโมเดลปัญญาประดิษฐ์เพื่อประมวลผลบนคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง โดยคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ร่วมกับทีมจาก National Tsing Hua University ประเทศไต้หวัน และทีมจาก Nanyang Technological University ประเทศสิงคโปร์

     สำหรับสมาชิกทีมธรรมศาสตร์ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ วงค์สอน นักศึกษาชั้นปี 4 นายนพณัฐ นามปั๋น นักศึกษาชั้นปี 4 น.ส.สุชาดา สุริวงค์ นักศึกษาชั้นปี 4 น.ส.สุชานันท์ ใจมุข นักศึกษาชั้นปี 4 นายศุภเกียรติ์ ไหวพินิจ นักศึกษาชั้นปี 3 และ น.ส.ศิริภัสสร ขวัญจิตร์ นักศึกษาชั้นปี 3

    การแข่งขัน APAC HPC-AI 2021 ถือเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดโดย HPC-AI Advisory Council และ the National Supercomputing Centre (NSCC) Singapore เป็นการดึงสมรรถนะของโมเดลปัญญาประดิษฐ์เพื่อประมวลผลบนคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง ในปีนี้เป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 4 มีทีมผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 36 ทีม จาก 13 ประเทศ โดยแข่งขันผ่านทางออนไลน์ที่ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 5 เดือน

     นายอภิสิทธิ์ เล่าว่า การแข่งขันครั้งนี้ เป็นการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงของ the National Supercomputing Centre (NSCC) ประเทศสิงคโปร์ เพื่อทำโจทย์ ซึ่งโจทย์แต่ละปีจะไม่เหมือนกัน โดยในปีนี้โจทย์จะมี 2 ข้อ เป็นโจทย์เฮชพีซีและเอไอ โจทย์เฮชพีซีเราต้องดึงสมรรถนะของโปรแกรมโกรแมคส์ (GROMACS) ในการจำลองพลวัตเชิงโมเลกุล ของไวรัส STMV และ Lignocellulos มาทำการประมวลผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงโดยใช้ซีพียูพร้อมกันได้มากถึง 768 ซีพียู ให้มีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนโจทย์ด้านเอไอ เราต้องดึงสมรรถนะของโมเดลแนะนำไอเทมบนหน้าฟีดของเฟซบุ๊ก (Facebook DLRM) เมื่อประมวลผลบนเครื่องจีพียูคลัสเตอร์ Nvidia DGX-1 

     ในการแข่งขันทีมธรรมศาสตร์ แบ่งออกเป็น 2 ทีมย่อย ทีมละ 3 คน แยกกันทำทีมละโจทย์ สำหรับโจทย์โมเดล HPC เป็นโจทย์ที่ค่อนข้างแพร่หลายแล้ว การวิเคราะห์แบบจำลองนี้เราได้เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมซึ่งได้ทำการศึกษามาก่อนแล้ว ส่วนโจทย์โมเดลปัญญาประดิษฐ์ ไม่ได้แพร่หลายเหมือนโมเดล HPC ทีมก็พยายามเสนอผลลัพธ์ที่พอจะทำได้

     “อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร. วรวรรณ ดีอัซ การ์บาโย มีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้มาก เพราะหัวข้อที่ทำการแข่งขันไม่ได้มีสอนในหลักสูตรตรง ๆ จะมีการประยุกต์จากวิชาที่เรียน ฉะนั้นเวลาฝึกอาจารย์จะต้องเข้ามาอธิบายและสอนเพิ่มเติมให้ทีม อาจารย์มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ช่วยเทรน ช่วยสอนให้พวกเรา ทำให้พวกเราสามารถคว้ารางวัลมาได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

     นอกจากฝีมือและไอเดียแล้ว อีกปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ทีมนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง สามารถคว้ารางวัลมาได้ นั่นคือประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขัน

     เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขัน ทว่า “นายอภิสิทธิ์” และเพื่อนอีก 2 คนในทีม ก็เคยเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ เมื่อปีก่อนมาแล้ว นายอภิสิทธิ์ เล่าว่า เคยร่วมการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว แต่ขณะนั้นทุกคนยังใหม่ ซึ่งประสบการณ์จากเวทีแรกทำให้กลับมาฟอร์มทีมใหม่ โดยได้กำลังสำคัญมาจากน้อง ๆ ปี 3 อีก 2 คน

     “ปีที่แล้วมีทั้งหมด 6 รางวัล แต่ทีมเราได้คะแนนลำดับที่ 7 พลาดไป 1 อันดับ แต่ในปีนี้สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 3 มาได้ ถือว่าได้อันดับที่ดีขึ้นจากการแข่งปีที่แล้ว โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรามีประสบการณ์มาก่อนแล้ว สำหรับน้อง ๆ ปี 3 ในทีมคาดว่าปีหน้าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คงจะฟอร์มทีมเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง ตั้งเป้าหมายว่าจะให้ได้อันดับและคะแนนที่ดีกว่าเดิม” นายอภิสิทธิ์ ระบุ

     นายอภิสิทธิ์ บอกว่า การเรียนในห้องเหมือนเป็นการสอนทฤษฎี ส่วนการแข่งขันเหมือนการหาประสบการณ์จากการปฏิบัติที่จะเอาไปใช้ ในการทำงานหรือการเรียนต่อการวิจัย ถ้ามีโอกาสที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ก็เหมือนได้รับโอกาสเพิ่มมาจากคนอื่น ๆ ด้วย