Loading...

สถานการณ์ผู้สูงอายุประเทศไทย สวัสดิการ และกลุ่มธุรกิจเพื่อผู้สูงวัย

 

หากพูดถึงสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย ซึ่งเราไม่ได้เพิ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่เรากำลังอยู่ในสังคมผู้สูงอายุกันแล้ว

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2562

  

          หากพูดถึงสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย ซึ่งเราไม่ได้เพิ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่เรากำลังอยู่ในสังคมผู้สูงอายุ โดย สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ ได้จัดกิจกรรมครบรอบ 2 ปี มีการจัดเสวนาในหัวข้อเรื่อง “สถานการณ์ผู้สูงอายุและรายงานวิจัยด้านผู้สูงอายุของสถาบันฯ” โดยมี ผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสถาบันฯ ให้ความรู้เกี่ยวกับ สถานการณ์ผู้สูงอายุของประเทศไทย ร่วมด้วย ศ.ดร.เอื้อมพร พิชัยสนิธ จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ และ ผศ.ดร.ดวงใจ หล่อธนวณิชย์ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมให้มุมมองเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา

          ผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงภาพกว้างของสังคมผู้สูงอายุว่า ในประเทศไทยเราเป็นสังคมผู้สูงอายุมาสักพักใหญ่แล้ว การเป็นสังคมผู้สูงอายุไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือการบริหารจัดการสังคมผู้สูงอายุว่าเราจะทำอย่างไรให้สังคมผู้สูงอายุเป็นสังคมที่มีคุณภาพและมีความพร้อม ซึ่งประเทศไทยเรานิยามผู้สูงอายุอยู่ที่ 60 ปี คิดเป็นจำนวน 16 - 17% หรือประมาณ 10 - 11 ล้านคน ภายใต้ประชากรของประเทศเกือบ 70 ล้านคนและได้ชี้ถึงความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้สูงอายุที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพนั้นต้องความพร้อมตั้งแต่ช่วงวัยก่อนที่จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มแรงงานอิสระ ดังเช่น คนขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ค้าขาย ที่ต้องเก็บออมเงินเอง เพราะมีหลักประกันความมั่นคงน้อยกว่ากลุ่มข้าราชการบำนาญ หรือผู้รับบำเหน็จตกทอด ต้องเริ่มวัฒนธรรมการออมตั้งแต่วันแรกของการทำงานจึงจะทำให้มีเงินอย่างเพียงพอสำหรับใช้ในวัยเกษียณและใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน ต้องปรับมุมมองเกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุว่าสังคมผู้สูงอายุไม่ใช่สังคมของผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวแต่เด็กและผู้ใหญ่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมผู้สูงอายุที่ต้องร่วมเผชิญสถานการณ์ร่วมกัน

          และความท้าทายในประเด็นนี้คือการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ต้องมี Generation Gap Management คนสูงวัยและคนที่อยู่ในช่วงวัยทำงาน (เด็กยุคใหม่) จะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไร การประสานงานกับคนที่มีอยู่ 4 - 5 Generation ที่มีความคิดมักแตกต่างกัน และเด็กยุคใหม่ต้องเปลี่ยนแปลงทักษะด้านคนให้ทัน

          ศ.ดร.เอื้อมพร พิชัยสนิธ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ประชากรสูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากอัตราการเกิดที่ลดน้อยลง และประชากรมีแนวโน้มอายุยืนมากขึ้นโดยปัจจุบัน ผู้สูงอายุ อายุระหว่าง 60 - 79 ปี ที่ยังสามารถทำงานได้สุทธิ มีจำนวน 8.3 ล้านคน แรงงานกลุ่มนี้ถือได้ว่ามีศักยภาพที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ปัญหาของไทยมีปัญหาในเชิงโครงสร้าง ผู้สูงอายุที่ทำงานส่วนใหญ่ยังขาดทางเลือก ทางเลือกที่ว่าคืออยากทำงานต่อในองค์กร โดยจากหลาย ๆ คนที่หลังเกษียณ ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง ทำงานอิสระ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง อีกปัญหาคือ ชั่วโมงการทำงานไม่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ส่วนชั่วโมงการทำงานที่พึงปรารถนา สูงสุด 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากทำงานวันละ 7 - 8 ชั่วโมง เท่ากับทำงาน 3 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้สูงอายุไทยนั้นเกินกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในชนบท มีความยากลำบากทางการเงิน ส่วนผู้สูงอายุที่ได้ทำงานมักทำงานที่ไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน มีชั่วโมงการทำงานที่มากเกินไป ไม่มีสวัสดิการ

          ในขณะที่ ผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านและผู้สูงอายุติดเตียง ควรเพิ่มระบบการจัดการข้อมูลสุขภาพแห่งชาติ ที่จัดเก็บข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยแบบ Real-time การใช้เทคโนโลยี Smart Home, Home Sensors, Appliances และหุ่นยนต์ (Care robots) รวมถึงความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยในระยะยาว ซึ่งในภาพกว้างนั้นต้องแก้ไขวัฏจักรของการเกิดแบบจน - ขาดโอกาส โตแบบจน - ขาดโอกาส และแก่แบบจน – ขาดโอกาสให้ได้ซึ่งต้องแก้ไขตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

          ด้าน ผศ.ดร.ดวงใจ หล่อธนวณิชย์ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุว่า เมื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะเกิดการจ้างงานในธุรกิจสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวทั้งในรูปแบบที่ต้องใช้ทักษะ เช่นการดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน และรูปแบบที่ต้องใช้เงินทุน เช่นการจัดจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการดูแลผู้สูงอายุ หรือบ้านพักผู้สูงอายุแบบคิดค่าบริการ เป็นต้น ธุรกิจสนับสนุนการศึกษาเรียนรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ธุรกิจบริการทุกประเภทในการดำเนินชีวิตประจำวันฃ

          ประเทศไทยกำลังเคลื่อนไปสู่สังคมสูงอายุที่มีคุณภาพ ไม่ได้หมายความว่าสังคมผู้สูงอายุจะเป็นสังคมเฉพาะของผู้สูงอายุอย่างเดียวเท่านั้น แต่สังคมสูงอายุจะครอบคลุมถึงพวกเราทุก ๆ คน แต่ละช่วงวัยต้องมีการเตรียมความพร้อม รับมือที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข