นักศึกษาธรรมศาสตร์ ผุดไอเดียโครงการสตาร์ทอัพ "Halal Travel in Thailand" พัฒนาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดันเว็บไซต์รวบรวมแหล่งข้อมูลบริการ เอาใจนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในประเทศไทย

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2562

          ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้จำนวนมากมาสู่ประเทศต่างๆ และมีแนวโน้มว่าอัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมประเภทนี้จะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี แต่อย่างไรก็ดี ปัญหาที่พบจากการท่องเที่ยวคือ ข้อจำกัดเรื่องอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวของชาวมุสลิม และการค้นหาร้านอาหารฮาลาลเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวมุสลิม

          นักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงเกิดไอเดียนำไปสู่การก่อตั้งโครงการสตาร์ทอัพ "Halal Travel in Thailand" เพื่อรวบรวมแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก และร้านอาหารที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในประเทศไทย ตามนโยบายของ รองศาสตราจารย์ เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่กล่าวไว้ในงานปฐมนิเทศอาจารย์ใหม่ ปี 2561 ว่า "ธรรมศาสตร์ต้องการสนับสนุนให้เกิดโครงการสตาร์ทอัพในมหาวิทยาลัย" โดยโครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วยโดยมี นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นผู้ลงนามสนับสนุนในครั้งนี้

          นางสาวอิสรีย์ นรเศรษฐาภรณ์ ผู้จัดการโครงการสตาร์ทอัพ "Halal Travel in Thailand" กล่าวว่า "Halal Travel in Thailand” เป็นเว็บไซต์รวบรวมแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารและบริการจัดส่งอาหารฮาลาล รวมถึงการให้บริการด้านอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศนำไปสู่การกระจายรายได้ควบคู่กัน

          ในเรื่องของลักษณะธุรกิจของโครงการสตาร์ทอัพ "Halal Travel in Thailand" นางสาวสุดธิดา อิทธาภิชัย หัวหน้าฝ่ายคอนเทนต์ กล่าวว่า เราจะมองไปที่ธุรกิจออนไลน์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยในระยะแรกจะเริ่มที่เว็บไซต์ให้สามารถเข้าได้โดยไม่เสียค่าใช้บริการ

          ด้าน นางสาวกัญญาวีร์ มิตร์น้อย หัวหน้าฝ่ายโซเชียลมีเดีย และนางสาวพรรณนารายณ์ เข็มเพชร หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ กล่าวว่า เมื่อเริ่มต้นการทำธุรกิจจนกระทั่งเป็นที่ยอมรับในวงกว้างนั้น จะมีการหารายได้จากการขายโฆษณา และยังมีบริการรับวางแผนการเดินทางในการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลสำหรับผู้ที่ต้องการทริปส่วนตัว ส่วนลูกค้าจะมีทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและชาวมุสลิมรวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ต้องการลูกค้าชาวมุสลิมเป็นเป้าหมายหลัก

          นางสาวอิสรีย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ช่วงเริ่มต้นการทำธุรกิจ ลูกค้าที่เราโฟกัสจะเริ่มต้นจากนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในไทยที่ต้องการมาท่องเที่ยวในบริเวณกรุงเทพฯ และขยายออกเป็นนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในอาเซียน

          นอกจากนี้ยังใช้กลยุทธ์ Give and Share ที่จะเริ่มใช้ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว Low season ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวซบเซาและมีห้องว่างในที่พักต่างๆ จำนวนมากจึงทำให้ทีมงานเกิดกลยุทธ์ Give and Share โดยในระยะแรกหากนักท่องเที่ยวจองที่พักผ่านทาง Halal Travel in Thailand จะสามารถเข้าพักได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (เฉพาะค่าห้องพัก ส่วนบริการเสริมอื่นๆ ยังเสียค่าใช้จ่ายตามปกติ เช่น Service charge 10%, Tax 7%, CityTax 1% ตามที่กฎหมายไทยกำหนด) นางสาวสุดธิดา กล่าว

          กลยุทธ์ Give and Share ยังรวมถึงการบริจาคเงินให้กับผู้พิการผ่านทางแคมเปญ Give and Share โดยลูกค้าจะได้ฟรีค่าห้องพัก และได้มีส่วนร่วมช่วยสังคมให้เติบโตไปพร้อมกัน ในมุมของผู้ประกอบการด้านโรงแรมที่ให้ผู้ที่จองห้องพักผ่าน Halal Travel in Thailand เข้าพักได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยังถือเป็นการทำ CSR ไปในตัว และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย (โดยจะเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการฯ และ BOI)

          “Halal Travel in Thailand” จึงมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อความแตกต่างแต่ยังคงเข้ากับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของทางธุรกิจและยังให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตรวมไปถึงความเชื่อของศาสนาอิสลาม

          สอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) โทรศัพท์ 02-623-5055-8