Loading...

“ธรรมศาสตร์” คว้าแชมป์การแข่งขันระดับโลก! ด้วยผลงานพัฒนาสภาพแวดล้อม “รังสิตโมเดล”

ธรรมศาสตร์ คว้า The winner of Universal Design Competition จากผลงานรังสิตโมเดล ภายใต้แนวคิดการมีส่วนร่วมของชุมชนและการนำงานวิจัยมาบูรณาการกับบริการทางสังคม

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2565

     “รังสิตโมเดล” ผลงานของหน่วยวิจัยและออกแบบเพื่อคนทั้งมวล คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากประเทศไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศ “The winner of Universal Design Competition” ประจำปี 2565 ประเภท Expert จากสถาบัน Institute of Universal Design ประเทศเยอรมนี ในฐานะผลงานที่สร้างแรงขับเคลื่อนและเป็นประโยชน์ต่อคนทุกกลุ่มได้จริง โดยการแข่งขันดังกล่าวเป็นรายการแข่งขันที่มีมายาวนานกว่า 10 ปี และในปี 2565 มีตัวแทนประเทศเข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ อาทิ เยอรมนี อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ

 

     รศ.ดร.ชุมเขต แสวงเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์รังสิตด้านกายภาพ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ผลงานนี้เป็นการนำงานบริการสังคมมาถอดบทเรียนเป็นโมเดลการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุ หรือที่เรียกว่า “รังสิตโมเดล” โดยเน้นการออกแบบด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม ผ่านแผน กลไก และการปฏิบัติ ด้านกายภาพ ตั้งแต่บ้าน ระบบขนส่งมวลชน ไปจนพื้นที่สาธารณะ ในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต

     ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินการกว่า 15 ปี เกิดผลกระทบในการปรับบ้าน 178 หลัง ตลอดจนการปรับพื้นที่สาธารณะ และการนำไปสู่การกำหนดเป็นนโยบายของเทศบาลนครรังสิต และถ่ายทอดรับไปปฏิบัติในองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่น ๆ ตลอดจนเผยแพร่ในระดับนานาชาติ

     ในส่วนของจุดเริ่มต้นรังสิตโมเดล มาจากงานบริการวิชาการสู่สังคมเมื่อปี 2550 โดยได้ลงพื้นที่เทศบาลนครรังสิตเพื่อดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ด้วยการใช้แนวคิดที่ว่า พื้นที่ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางจะต้องรองรับการใช้งานผู้คนได้ทุกกลุ่ม จากนั้นได้นำแนวคิดเรื่องการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) เข้ามาประยุกต์ใช้ ทั้งในระดับนโยบายไปจนถึงการปฏิบัติจริง จนในปี 2555-2556 สามารถถอดบทเรียนจากแนวคิดดังกล่าวออกมาเป็นรังสิตโมเดล และในปี 2557 นำเสนอในงาน The 5th International Conference for Universal Design ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้รับรางวัลผลงานวิชาการดีเด่นระดับดีมาก ในการสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 9 ประเทศไทย

     สำหรับ “รังสิตโมเดล” คือการออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อคนทั้งมวล โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง เช่น คนพิการ ผู้สูงอายุ ฯลฯ โดยเน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในชุมชนนั้น ๆ ตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบ การแก้ไข การก่อสร้าง ไปจนถึงการประเมินผลและผลตอบรับเพื่อนำไปปรับปรุงต่อ ช่วงกระบวนการมีส่วนร่วมจะทำให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่คิดแทน และทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของต่องานที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อการช่วยกันดูแลรักษาในระยะยาว

     สำหรับกระบวนการมีส่วนร่วมที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย 4 ภาคีหลักในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ ได้แก่ เจ้าของพื้นที่ (Owner) ผู้ที่จะไปใช้งาน (User) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. (Local government) และหน่วยงานสนับสนุน (Support) เช่น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์            คณะสาธารณสุขศาสตร์ ฯลฯ โดยรังสิตโมเดลถือเป็นการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 11 เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) ในการทำให้เมืองน่าอยู่มากยิ่งขึ้น และเป้าหมายที่ 10 ที่มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequality) โดยช่วยให้คนมีความเท่าเทียมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

     ทั้งนี้ จากการคำนวณบทบาททางสถิติของรังสิตโมเดลและหน่วยวิจัยที่ผ่านมา พบว่ามีที่อยู่อาศัยที่ได้รับการปรับปรุงจำนวน 178 หลัง และการอบรมจากหน่วยวิจัยมีคนที่ได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 1 แสนคน รวมถึงการออกแบบบ้านตัวอย่างอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรอีกจำนวน 2 หลัง และมีผลกระทบต่อสังคมโดยสามารถประเมินผลตอบแทนทางสังคม (Social Return on Investment: SROI) จากการดำเนินโครงการในพื้นที่ พบว่า การบูรณาการงบประมาณที่ได้ลงทุนไป 1 บาท จะได้ผลตอบแทนทางสังคมกลับมา 10.04 บาท

     รศ.ดร.ชุมเขต กล่าวอีกว่า ในปี 2561 คณะสถาปัตยกรรมและการผังเมือง อนุมัติให้จัดตั้งหน่วยวิจัยและออกแบบเพื่อคนทั้งมวล โดยเป็นการนำงานวิจัยมาบูรณาการกับการบริการสังคมที่ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมบนฐานของงานวิชาการและงานวิจัย รวมไปถึงแก้ไขปัญหาชุมชนท้องถิ่นอย่างจริงจัง เกิดเป็นผลงานวิจัยเชิงพื้นที่ มากกว่า 5 เรื่อง นำไปสู่การต่อยอดและขยายผลต่อไป

     “ปัจจุบันพื้นที่ท้องถิ่นใกล้เคียงมีการรับรังสิตโมเดลไปเป็นแนวคิดเรื่องการออกแบบในการวางแผนนโยบายเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ” รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์รังสิตด้านกายภาพ  กล่าว

     รศ.ดร.ชุมเขต กล่าวว่า ต้องขอบคุณธรรมศาสตร์ที่เปิดพื้นที่ รวมถึงมีกลไกสนับสนุนการทำงาน เช่น ด้านงบประมาณ บุคลากร พื้นที่ ฯลฯ ซึ่งเมื่อใดที่มหาวิทยาลัยดูแลบุคลากรได้ดี บุคลากรจะสามารถขับเคลื่อนหรือส่งต่อสิ่งดีๆ ให้ชุมชนและสังคมต่อได้

     “เรื่องของสภาพแวดล้อมไม่ใช่แค่เรื่องของอาคารสถานที่ แต่เป็นเรื่องของคน เมื่อเราเข้าใจคน เราจะเข้าใจงาน นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาขั้นแรก ซึ่งมิติของคนที่จะทำให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ต้องมีทั้งเรื่องของสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมเคลื่อนไปพร้อมกัน” รศ.ดร.ชุมเขต กล่าว