Loading...

สร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนน Save My Life สวมอะไรก็ได้ แต่ต้องสวมหมวกกันน็อก

 

คณะสาธารณสุขศาสตร์ ต้อนรับเปิดเทอมใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์สวมหมวกกันน็อกในผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อน เพื่อสร้างวินัยจราจร ลดอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2562

  

          คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เผยว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดในโลก โดยเด็กและเยาวชนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เฉลี่ยมากถึงปีละ 2,510 ราย ซึ่งเยาวชนอายุ 15 – 25 ปี เป็นกลุ่มที่เสียชีวิตมากที่สุด ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา พบว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ถึงร้อยละ 79.53 อุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์จึงเกิดขึ้นมากที่สุดตลอดปี ส่งผลให้ประเทศต้องสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติไปอย่างไร้เหตุผล เพียงเพราะความประมาท ไม่ป้องกันตัว ไม่จริงจังกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

          คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล็งเห็นความสำคัญของความปลอดภัยมาอย่างจริงจัง และได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพราะมาตรการที่จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเห็นผลชัดเจนมากที่สุด คือ “การใส่หมวกกันน็อก รวมถึงการขับขี่อย่างระวังระวัง” ย่อมส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุ และอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนจะลดลง

          โดยในวันเปิดภาคเรียนวันแรกของปีการศึกษา 2562 เมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2562 นักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ ได้เริ่มต้นด้วยกิจกรรมการรณรงค์การสวมหมวกกันน็อก ในผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งตัวผู้ขับขี่และผู้ซ้อน เพื่อสร้างวินัยจราจร เพื่อลดอัตราเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยการร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย เช่น สำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา และกองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการร่วมรณรงค์ให้ความรู้ สร้างการตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีวินัยจราจรป้องกันและลดความสูญเสียอันอาจจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางถนน พร้อมทั้งได้มีการจัดทำสื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยต่าง ๆ ตามประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง การให้สวมหมวกนิรภัยในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเขตสวมหมวกนิรภัย 100% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 เป็นต้นมา