Loading...

เทคโนโลยี AI จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร?

เทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือที่เราเรียกกันว่า AI ได้ถูกนำมาใช้ทางด้านการศึกษา การแพทย์ การท่องเที่ยว และในเรื่องของการช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ.2563

  

 

        ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือที่เราเรียกกันว่า AI ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การแพทย์ การท่องเที่ยว และในเรื่องของการช่วยลดภาวะโลกร้อน (Global Warming) ยกตัวอย่างเช่น ช่วยในการประหยัดพลังงาน การทำ Smart Grid หรือการคิดค้นอุปกรณ์ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

        “เราจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้กระแสของการลดการปล่อยก๊าซมลพิษจากรถยนต์นั้นมาแรงมาก และที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ‘รถยนต์ EV’ (Electric Vehicle) ที่ขับเคลื่อนโดยพลังจากไฟฟ้า 100% แทนการใช้น้ำมัน ซึ่งในประเทศไทยเรามี ‘รถยนต์ EV’ จำหน่ายอยู่ในบางค่ายรถยนต์ ซึ่งข้อดีของรถยนต์ EV คือมันจะไม่ปล่อยก๊าซมลพิษออกมา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดมลพิษทางอากาศ” ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง อาจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์แห่งประเทศไทย กล่าว

          นอกจาก ‘รถยนต์ EV’ ก็ยังมีเทคโนโลยีระบบโครงข่าย ‘Smart Grid’ เป็นระบบบริหารการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ซึ่งระบบนี้จะสามารถช่วยลดพลังงานได้ หรือการใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น (Demand Response) เช่น การสร้างบ้านอัจฉริยะ โดยนำเอาเทคโนโลยีอัจฉริยะต่าง ๆ เข้ามาเสริม ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเปิดแอร์แต่เราไม่อยู่ก็เสียเปล่า แต่ถ้าเรามี Smart Grid แอร์จะเปิดตามจุดที่เราอยู่ในบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงาน

        ในเรื่องของการจราจร AI ถูกนำมาใช้ในหลายส่วน เช่น Image processing คือ การใช้กล้องตรวจจับท้องถนน มอร์นิเตอร์สภาพถนนและการจราจร ซึ่ง AI จะเข้ามาช่วยให้เราประหยัดพลังงาน เพราะเราสามารถ tracking แล้วรู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

        ด้าน IoT หรือ Internet of Things ซึ่งเราจะติดเซ็นเซอร์ (Sensor) อยู่ตามที่ต่าง ๆ ทำให้เราสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาประมวลผลได้ เช่น ตรวจสอบว่าพื้นที่ใดมีฝุ่นเยอะ มีความร้อนสูง หรือตรวจพบคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สูง

        จากปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับ Chubu University ประเทศญี่ปุ่น จัดทำโครงการ Smart Transportation for Thailand 4.0 บริเวณพื้นที่สุขุมวิท โดยต้องการทำให้ย่านสุขุมวิทเป็นโมเดลสำหรับผู้สูงอายุ และต้องการลดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) พร้อมกับเพิ่ม Quality of Life

        “อีกสิ่งหนึ่งที่โครงการนี้ต้องการทำคือ Car sharing ซึ่ง AI จะเข้าไปช่วยบอกว่า เราต้องการจะสั่งจองรถเมื่อไร คำนวณระยะทางที่สั้นที่สุด ตรวจสอบสภาพจราจร เพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัด เราจะได้ไม่ต้องจอดรถบนท้องถนนในเวลานานก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ แต่หากพื้นที่จอดรถที่กำลังสตาร์ทอยู่ถูกปรับมาเป็นพื้นที่ของสวนสาธารณะ เป็นมิตรกับที่อยู่อาศัยก็จะทำให้ลดพลังงานและโลกร้อนได้” ศ.ดร.ธนารักษ์ กล่าว

        เทคโนโลยี AI เป็นอีกเทคโนโลยีที่เขามามีบทบาทกับนานาประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยประโยชน์ที่สามารถทำได้หลากหลายด้าน รวมถึงการเข้ามาช่วยหรือเสริมเทคโนโลยีนั้น ๆ ในการลดการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน