Loading...

นักจิตวิทยา มธ. ห่วงประชาชนเสพติดข่าวปล้นทอง หวั่นเกิดอารมณ์ร่วมจนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต

 

นักจิตวิทยา ระบุดูภาพเหตุการณ์ข่าวปล้นทองสร้างความเครียดมากกว่าอ่านเนื้อข่าว หวั่นประชาชนเกิดอารมณ์ร่วมแต่ระบายออกไม่ได้ นำไปสู่ความกดดันจนร่างกายทรุด

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ.2563

  

           อาจารย์อธิชาติ โรจนะหัสดิน อาจารย์สาขาจิตวิทยาคลินิก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหัวหน้าโครงการศูนย์ชีวิตชีวา (Viva City) เปิดเผยว่า ผู้ที่ติดตามข่าวและภาพความรุนแรงจากเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นทองที่ จ.ลพบุรี อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ตลอดเวลา มีโอกาสเกิดความเครียดสะสมอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโกรธแค้นคนร้าย ความรู้สงสารผู้สูญเสีย ทั้งหมดนี้คืออารมณ์ร่วมเช่นเดียวกับดูละคร หรือข่าวการเมือง ซึ่งที่สุดแล้วจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้

          อาจารย์อธิชาติ กล่าวว่า เมื่อเสพข้อมูลข่าวสารความรุนแรงเหล่านี้จนเกิดอารมณ์ร่วมแล้ว แต่กลับไม่สามารถปลดปล่อย ระบาย หรือแสดงออกในทางใดทางหนึ่งได้ ความรู้สึกอัดอั้นเหล่านั้นก็จะแสดงออกผ่านความกังวล ความกลัว ความเศร้า และความเครียดกดดัน ซึ่งตรงนี้จะเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ไปจนถึงมีผลกระทบต่อระบบหัวใจ หลอดเลือด ความดันโลหิต ซึ่งระดับความรุนแรงจะแปรผันไปตามอารมณ์ร่วมที่เกิดขึ้น

          “อย่างเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ออสเตรเลีย หากเราบริจาคหรือช่วยเหลืออะไรได้ ก็จะรู้สึกปลดปล่อยความทุกข์ในใจออกไป แต่ถ้าเป็นข่าวที่สามารถเสพได้อย่างเดียวแต่แอคชั่นอะไรไม่ได้ ก็จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์” อาจารย์อธิชาติ กล่าว

 

          หัวหน้าโครงการศูนย์ชีวิตชีวา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึง “วิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น” ว่า ประการแรกคือควรสังเกตตัวเองว่ามีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์มากน้อยเพียงใด ต้องมีสติและเสพข่าวแต่พอประมาณ แล้วเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง ไม่ควรอยู่กับข่าวนานเกินไป โดยเฉพาะภาพเหตุการณ์และคลิปวิดีโอจะสร้างผลกระทบรุนแรงกว่าการอ่านเนื้อหา ฉะนั้นหากจะเสพข่าวควรเลือกวิธีการอ่านมากกว่าการดู จะทำให้เกิดความเครียดน้อยลง

“อีกส่วนหนึ่งที่น่ากังวลคือการเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ จากการเห็นข่าวและเหตุการณ์ผ่านสื่อที่มักนำเสนอในลักษณะดราม่า ดึงอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีรายอื่นที่มีแรงจูงใจในการปล้นอยู่แล้วเกิดการลอกเลียนแบบวิธีการได้ ฉะนั้นการรายงานข่าวแบบราบเรียบ ไม่ชี้นำวิธีการจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด” อาจารย์อธิชาติ กล่าวทิ้งท้าย